เสริมคางอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เสริมคาง

วันนี้เรามีบทความความงามเกี่ยวกับการศัลยกรรมมาฝากกันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับการทำศัลยกรรมนั้น เวลาที่คนไข้เข้าไปพบหมอ หมอก็จะวิเคราะห์ตามหลักการแพทย์ คือบางทีอย่างที่เราทราบกันว่าความสวยความงามเป็นเรื่องของความพอใจของแต่ละคน แต่เราก็จะมีหลักการคร่าวๆ ทางการแพทย์ เช่นว่า ใบหน้าสวยตามหลักการแพทย์เนี่ยก็คือใบหน้าที่มีสัดส่วนที่พอเหมาะ ซึ่งในตำราเขาก็จะมีสัดส่วนเลย เช่นความยาวของใบหน้า จากหน้าผากถึงหัวคิ้ว จากคิ้วถึงปลายจมูก จากปลายจมูกถึงคาง 3 ส่วนนี้ต้องได้สัดส่วนที่เหมาะสมกัน

เสริมคางสวยที่สุด

การที่ใบหน้าของเรามีสัดส่วนที่พอเหมาะอันนี้เป็นความสวยอย่างหนึ่ง อันที่ 2 ความสวยตามหลักการแพทย์คือจะต้องมีจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจ จุดเด่นบนใบหน้าของคนเรามีอยู่ 5 จุด ได้แก่ หน้าผาก จมูก โหนกแก้มสองข้าง ที่คาง แล้วเราลองสังเกตุดูนะคะคนที่มาทำศัลยกรรมก็จะพยายามเสริมหรือแก้ไขจุดเหล่านี้ เพราะเป็นจุดเด่นของใบหน้าทั้งสิ้น เช่น เสริมจมูก เสริมหน้าผาก เสริมคาง ตัดลดโหนกแก้ม เป็นต้น เพราะการเสริมตกแต่งจุดเด่นบนใบหน้าก็จะทำให้ใบหน้าของเราดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นหลักการคร่าวๆ ที่อธิบายความสวยตามหลักการแพทย์ สรุปสั้นๆ ก็คือมีจุดเด่นที่พอเหมาะและมีสัดส่วนที่เหมาะสม

ก่อนหน้านี้เราเคยฉีดฟิลเลอร์ที่คางมาบ้าง เพราะรู้สึกว่าตัวเองหน้าสั้นแล้วก็หน้ากลม แล้วก็มีรอยบุบตรงกลางคาง ก็เลยไปเติมฟิลเลอร์ ตอนไปเติมคุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวมันก็จะสลายหายไปเอง ตอนนี้ก็ยังไม่สลาย ยังอยู่ก็เลย ไม่รู้ว่าเขาเติมอะไรเข้าไปกันแน่ ซึ่งในความจริงแล้วฟิลเลอร์นั้นมีหลายตัวมากๆ แล้วเขาก็จะเหมารวมเรียกว่าฟิลเลอร์ทั้งหมดเลย อน่างการฉีดสารเติมเต็มไม่ว่าอะไรที่ฉีดเข้าไปก็จะเรียกกันว่าฟิลเลอร์ เพราะฉะนั้นเวลาที่เราบอกว่าไปเติมฟิลเลอร์ ต้องถามหมอด้วยว่าเขาฉีดอะไรเข้าไป อย่างฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยก็คือพวก HA คอลลาเจน และไขมันตัวเอง ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีระบุเวลาไว้ว่ากี่ปีกี่เดือนถึงจะสลายไป อย่างเช่น ถ้าฉีดฟิลเลอร์ HA มันก็จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี จากนั้นมันก็จะค่อยๆ สลายไป ส่วนถ้าเป็นไขมันตัวเองนั้นปีหนึ่งอาจจะสลายไปประมาณ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดด้วย บางตำแหน่งก็สลายเร็ว บางตำแหน่งก็สลายไม่เร็ว

สำหรับเราเองฉีดมาแล้ว 3 ปีก็ ยังไม่สลายเลย ก็เลยไปปรึกษาคุณหมอว่าถ้าอยากจะเสริมคางแบบถาวรกว่านี้มันต้องทำยังไง คุณหมอก็เลยบอกว่าสำหรับเรื่องการเสริมคางนั้น การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมคางและการเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้นก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างเช่น ถ้าเราฉีดฟิลเลอร์ ข้อดีก็คือ มันสะดวกรวดเร็วและทำได้ง่าย เวลาพักฟื้นก็น้อยด้วย แต่ข้อเสียก็อย่างที่บอกไป อย่างแรกคือมันมีโอกาสที่มันจะไหลได้และอักเสบได้ อันที่สองคือทำเป็นรูปทรงได้ยาก ส่วนการเสริมคางด้วยซิลิโคน ข้อดีก็คือเป็นรูปทรงได้ง่ายอยู่ได้ถาวรและถ้าเกิดว่าเราไม่ชอบก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตามหลักการแพทย์ถ้าเป็นเรื่องของคางหรือจมูกแพทย์จะแนะนำให้เสริมคางเป็นซิลิโคนจะปลอดภัยกว่า

Author: botook.com