การเสริมคางและการดูแลตนเอง
การทำศัลยกรรมความงามที่สาวๆ มักจะใช้เป็นทางออกเพื่อช่วยปรับแต่งให้ดูสวยขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูก เสริมหน้าอก โดยเฉพาะการเสริมคาง ที่ทำให้รูปหน้าดูสวยเรียวขึ้น สมส่วนมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่จะตัดสินไปทำจำเป็นต้องรู้กระบวนการขั้นตอนในการทำเพื่อเตรียมรับมือในการเจ็บตัวครั้งนี้
ขั้นตอนการเสริมคาง
- ก่อนที่จะผ่าตัด เสริมคาง แพทย์จะทำการวัดสัดส่วนของคางและใบหน้าเดิมทั้งหมดก่อนเพื่อคำนวณสัดส่วนและเลือกขนาดของซิลิโคนกำหนดจุดให้เหมาะสมเพื่อเหลาซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้าพอดีกับฐานคางเดิมของคนไข้ หลังจากนั้นแพทย์จะทำความสะอาดบนใบหน้าและช่องปากก่อนที่จะผ่าตัดและแพทย์จะวาดเส้นแนวกึ่งกลางคางและกำหนดจุดตำแหน่งที่ต้องการเพื่อทำการแก้ไขรูปคาง
- จะทำการฉีดยาชาบริเวณคางและแพทย์ก็จะให้ยาสลบกับคนไข้เพื่อความเกร็งหลังจากนั้นจะทำการเหลาซิลิโคนให้ได้ขนาดกับรูปแบบที่ได้กำหนดไว้
- แพทย์จะทำการเปิดผิวบริเวณด้านในปากของคนไข้ประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร ตั้งแต่บริเวณเหงือกถึงบริเวณส่วนของกระดูคางด้านหน้า จากนั้นก็จะเลาะเข้าไปใต้กล้ามเนื้อโดยจะเลาะติดกับกระดูกคางตามแนวขอบเขตที่กำหนด และแพทย์จะยึดซิลิโคนลงในตำแหน่งที่กำหนดเพื่อไม่ให้ซิลิโคนสามารถเคลื่อนตัวได้
- แพทย์ก็จะทำการเย็บปิดแผลด้วยไหมละลายอีกครั้ง หากเย็บปากเกินไปก็จะทำให้ปากผิดรูปได้ ไหมละลายจะสามารถละลายได้ภายใน 10 วัน สำหรับขั้นตอนการทำจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่ถ้าคนไข้รายไหนที่เคยต้องการทำศัลยกรรมในส่วนอื่นของใบหน้าก็อาจจะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นเช่นการทำปากกระจับ ปากบาง ทำตาสองชั้น ทำจมูก เพื่อให้เจ็บตัวทีเดียว
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนและหลังการเสริมคาง
- ควรงดทานยาแก้ปวดพวกแอสไพริน อาหารเสริม วิตามินต่างๆเพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด หากมีโรคประจำตัวก็จำเป็นที่ต้องบอกรายละเอียดให้กับแพทย์ทราบ ต้องทำความสะอาดใบหน้าและช่องปากให้สะอาด
- หลังจากการทำศัลยกรรมเสริมคางคนไข้ควรนอนให้ศีรษะสูง 2-3 วัน ควรนอนในท่าหงายจะดีที่สุดหากนอนท่าตะแคงก็นอนได้บ้างเล็กน้อย เพื่อช่วยให้อาการบวมยุบไว แต่ไม่นอนในท่าตะแคงตลอดเพราะโอกาสเสี่ยงอาจทำให้คางที่ทำมานั้นเบี้ยวได้ง่ายขึ้น หากมีอาการบวมควรประคบเย็นอย่างต่อเนื่องประมาณ 2-3 วันจะช่วยให้ยุบเร็ว ควรเลือกทานอาหารอ่อนที่สามารถเคี้ยวได้ง่ายและไม่ควรเอาลิ้นดุนหรือแกะ เกาเป็นเด็ดขาด
ถึงคุณจะทำคางมาแสนแพงแค่ไหนก็ไม่ควรละเลยในการดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูได้เร็วขึ้น หากไม่อยากเจ็บตัวรอบสองก็ต้องมีวินัยต่อตนเองให้มากที่สุด